วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ข้อแนะนำในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ด้วยวิธีง่ายๆ

บทความจาก http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=homkorn&month=11-2006&date=07&group=5&gblog=1

การสร้างมนุษยสัมพันธ์ด้วยวิธีง่ายๆ

1. ยิ้ม ว่ากันว่ายิ้มเป็นการลงทุนที่น้อยที่สุด แต่ได้ผลมากที่สุดในการพบปะกับบุคคลอื่น พยายามให้ตัวเองมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มเปิดเผยอย่างจริงใจ คือยิ้มทั้งกายภายนอกและยิ้มที่ใจ การยิ้มแสดงถึงความสุข มีไมตรีจิต มีเมตตาจิตต่อผู้อื่น (ยกเว้นการซ่อนดาบในรอยยิ้ม - อันนี้ จขบ. ว่าเอง)

2. พูดน้อยฟังมากในการติดต่อกับผู้อื่น เขาบอกให้พยายามพูดแต่น้อยๆ พูดแต่เรื่องดีๆ มีสาระ และเป็นเรื่องที่น่าสนใจของคู่สนทนา ไม่ใช่พูดแต่เฉพาะเรื่องที่เราสนใจคนเดียว ใครไม่สนก็ช่าง (อย่างนี้เธอก็พูดคนเดียวไปเถอะ ก็ชั้นไม่สนใจด้วยนี่นา)ว่ากันว่าธรรมชาติสร้างให้มีปากเดียวแต่มีสองหู เหมือนเป็นการบอกใบ้ให้ใช้อย่างเหมาะสมคือพูดให้น้อยฟังให้มาก ที่สำคัญการพูดน้อยฟังมากเป็นเสน่ห์อย่างง่ายๆ ซึ่งใครๆ ก็ชอบ (โดยเฉพาะคนชอบพูดจะชอบมากเวลามีคนฟังเราพูด)และควรงดการพูดเพ้อเจ้อนินทาคนอื่น ยุแหย่ ส่อเสียด อิจฉาริษยา ประชด ฯลฯ โดยเด็ดขาด (อันนี้ยากหงะ) เพราะไม่เกิดผลดีแก่ใครทั้งสิ้น มีแต่เรื่องเสียหาย(พระท่านว่าร้อนเขาร้อนเรา-ไม่ดี ร้อนเขาไม่ร้อนเรา-ก็ไม่ดี ไม่ร้อนเขาแต่ร้อนเรา-ก็ไม่ดี ถ้าจะให้ดีต้องไม่ร้อนทั้งเขาและเรา อันนี้พูดเลย)

3. หลีกเลี่ยงการพูดตำหนิติเตียนบางครั้งคนเราชอบตำหนิคนอื่นเมื่อเห็นว่าเขาทำผิดพลาด ความจริงทุกคนมีจุดอ่อน มีความบกพร่องทั้งทางร่างกายและการปฏิบัติตัวกันทั้งนั้น ไม่มากก็น้อย อย่างในเรื่องการทำงาน-เราอาจมองว่าเขาผิดเขาบกพร่อง แท้จริงเขาอาจจะไม่ผิดก็ได้ แต่เป็นการมองคนละทัศนะเท่านั้น แม้ที่สุดเขาจะทำผิดจริงบกพร่องจริง เราก็ควรพยายามทำใจเปิดกว้างเห็นอกเห็นใจเขา เพราะการผิดพลาดเป็นวิสัยธรรมดาของปุถุชนอย่างเราๆ ท่านๆ จงระลึกไว้เสมอว่า คนที่ไม่ทำผิดก็คือคนที่ไม่ทำอะไรเลยฉะนั้น ถ้าไม่จำเป็นแล้ว เราควรพยายามหลีกเลี่ยงการบ่นว่าวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิติเตียนผู้อื่นให้มากที่สุด เพราะจะทำให้คนถูกตำหนิ ถูกประณาม เสียหน้า เสียใจ ที่สำคัญคือมันไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่ผิดไปแล้วคืนดีมาได้ นอกจากจะเสียงานแล้วยังจะทำให้เสียน้ำใจกันอีก

4. หลีกเลี่ยงการฉีกหน้าบางครั้งในกลุ่มคนหรือในที่ประชุม มีบางคนกล่าวผิดพลาด กล่าวคลาดเคลื่อน แต่การโต้แย้งอย่างฉับพลันทันทีเอาความจริงมาพูดหักล้างกัน ก็จะทำให้เขาเสียหน้ามาก ดังนั้น จึงต้องระวังที่สุดโดยเฉพาะถ้าเป็นกรณีผู้บังคับบัญชากล่าวผิดพลาดคลาดเคลื่อน ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าจำเป็นจะต้องแย้งเพื่อมิให้เสียงานเสียการกันจริงๆ ก็ให้ใช้วิธีเงียบๆ เช่น อาจเขียนโน๊ตส่งไปให้อ่าน หรือทำเฉยไว้ก่อนแล้วค่อยมาโต้แย้งภายหลังเมื่ออยู่เฉพาะสองต่อสอง เป็นต้นอย่าลืมว่า การฉีกหน้าคนเป็นการทำลายมิตร และก่อศัตรูโดยแท้

5. หลีกเลี่ยงการโต้แย้งถกเถียงทะเลาะกันในเรื่องไร้สาระบางครั้งคนเราชอบโต้แย้งถกเถียงกันในเรื่องต่างๆ ที่เป็นปัญหาโลกแตกไม่มีที่ยุติ การโต้แย้งโต้เถียงกันอย่างเคร่งเครียด อาจนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งวิวาทกัน ผิดใจกัน ทำให้เกิดอารมณ์เครียดโกรธและเป็นอันตรายต่อร่างกายและสุขภาพจิตมากผลการโต้แย้งไม่ทำให้ผู้แพ้ ผู้ชนะ หรือสังคม ได้ประโยชน์อะไรเลย มีแต่ความเสียหายจึงควรงดเว้นอย่างเด็ดขาด ผู้อื่นพูดคิดเห็นแตกต่างกับเรา เราก็ยอมรับฟัง แล้วก็เฉยเสียก็จบเรื่อง ตัดปัญหาไปเลย

6. รู้คุณคนทำดีให้ไม่มีวันลืมบุญคุณต้องทดแทน ใครทำความดีให้แม้เพียงเล็กน้อย เราควรต้องรู้สึกรำลึกถึงบุญคุณของเขาอยู่เสมอ ไม่ลืมเลือนและแสดงออกมาให้เขารู้และพยายามตอบแทนบุญคุณท่าที่จะทำได้ แม้ยังตอบแทนไม่ได้ก็พูดออกมา แสดงออกมาว่าเรารู้สึกสำนึกในบุญคุณ ก็เป็นการทำดีแล้วชั้นหนึ่งความกตัญญูรู้คุณเป็นคุณสมบัติที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของมนุษย์ เป็นมงคลเป็นศรีแก่ผู้ปฏิบัติ ผู้ที่เจริญก้าวหน้าทั้งหลายล้วนมีคุณธรรมข้อนี้ทั้งสิ้น

7. พยายามเห็นใจและให้อภัยเมื่อใครทำอะไรให้เราไม่พอใจเมื่อใครทำสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจแก่เรา อย่าเพิ่งโกรธและตอบโต้ พยายามเห็นอกเห็นใจเขา พยายามดูสาเหตุที่เขาทำ เพราะเขาอาจทำด้วยความเข้าใจผิด หรือด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ฯลฯเมื่อเห็นสาเหตุแห่งการทำผิด ควรพยายามเห็นใจเข้าใจและให้อภัยเขา เพราะการให้อภัยเป็นเมตตาธรรมอย่างหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ใจเราสบาย ใจเขาก็สบาย เป็นการลดศัตรูและก่อมิตรภาพทางหนึ่ง

8. เมื่อทำผิดจงรับผิดอย่างเต็มใจการรับผิดอย่างจริงใจจะมีผลทางจิตวิทยา ทำให้ผู้อื่นลดความโกรธความไม่พอใจ และเกิดความเห็นอกเห็นใจ เกิดความนิยมนับถือในจิตใจที่กว้างขวางเป็นนักกีฬาของเรา ทั้งยังช่วยให้อีกฝ่ายหนึ่งเกิดความคิดให้อภัยได้ง่ายขึ้นด้วยตรงข้ามการดื้อรั้นโต้เถียงไม่ยอมรับผิด จะทำให้ผู้เกี่ยวข้องยิ่งไม่พอใจ และจะพยายามหาเหตุผลมากล่าวเอาความผิดจากเราให้ได้ในที่สุด

ทั้ง 8 ประการนี้ นอกจากเอามาย้ำเตือนสติให้ได้คิดกันแล้วเราเองก็มีโอกาสได้ทบทวนตัวเองด้วยว่ายังขาดตกบกพร่องในเรื่องใดอีกบ้างคงไม่มีใครอยากได้ศัตรูเพิ่มกระมังทำเช่นที่ผู้เขียนแนะนำมานี้ รับรองว่านอกจากลดศัตรูได้แล้ว ยังเกิดมิตรภาพใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอนอย่าลืมถามตัวเองทุกวันว่า วันนี้คุณได้มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นแล้วหรือยัง ?

ไม่มีความคิดเห็น: